สารทำความเย็น R410A สารทำความเย็นยุคใหม่
สารทำความเย็นทำหน้าที่เป็นตัวกลางดูดเอาความร้อนภายในห้อง (Indoor) ออกมานอกห้อง (Outdoor) จากนั้นน้ำยาจะถูกทำให้เย็นอีกครั้งแล้วส่งกลับเข้าห้องเพื่อดูดซับความร้อนอีกโดยกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาการทำงานของคอมเพรสเซอร์
★ ทำไมถึงต้องใช้ สารทำความเย็น R410A
สารทำความเย็นแบบใหม่ หรือ HFC (ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน) คือสารที่ไม่มีส่วนผสมของคลอรีน (cl) ซึ่งไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ ในเวลานี้คือน้ำยา R410A ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง (COP : Coefficient of Performance) เป็นสารทำความเย็นที่ไม่ติดไฟถูกต้องตามข้อกำหนดของพรบ. ควบคุมอาคาร ฉบับที่ 33 พ.ศ. 2536 นิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งในยุโรปและอเมริกา เพราะปริมาณการใช้เครื่องปรับอากาศที่เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาจึงมีการปล่อยก๊าซหรือสารที่ ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ อันเปรียบเสมือนเกราะที่คอยกั้นความร้อนจากแสงของดวงอาทิตย์และรังสีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งนับวันยิ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรุนแรงมากขึ้นการเล็งเห็นถึงผลกระทบดังกล่าว จึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและริเริ่มการเปลี่ยนแปลง มาใช้สารทำความเย็นที่ไม่ทำลายโอโซนในเครื่องปรับอากาศเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในปัจจุบัน ทั้งในรุ่นทั่วไป (Fix Speed) และรุ่นระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter System)
★ ข้อดี ของสารทำความเย็น R410A
นอกจากนี้ยังมีข้อดีคือ ใช้ปริมาณน้ำยาน้อยลงมาก มีแรงดันของน้ำยามากกว่าน้ำยาแอร์เบอร์ R-22 อีกทั้งช่วยให้ระบบปรับอากาศมีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น และคุณภาพของเสียงของเครื่องปรับอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี จากทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้น้ำยาแอร์ R410a มีลักษณะเด่นที่ชัดเจนดีกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่นๆในปัจจุบัน ที่ใช้แทนสารทำความเย็นชนิด R22 ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยและแถบเอเชียส่วนใหญ่ ได้เริ่มมีการเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศ จากเดิมที่เคยใช้คือสารทำความเย็น R 22 เปลี่ยนมาเป็นสารทำความเย็น R410a ตามพีธีสารมอนทรีออลที่ต้องการลดการทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับโลกและสิ่งแวดล้อม เสนอให้มีการเปลี่ยนที่เครื่องปรับอากาศทุกแบรนด์ต้องเปลี่ยนน้ำยามาใช้สารทำความเย็น R410a ก่อนปีค.ศ. 2020 ดังเช่นผู้ผลิตชั้นนำของตลาดแอร์บ้าน มิตซูอิเล็กทริค ซึ่งทำทุกรุ่นตั้งแต่ขนาดเล็กจนขนาดใหญ่รวมทั้งระบบซิตี้มัลติ ซึ่งเป็นแอร์ 2 ระบบ ทำความเย็นและความร้อนในเครื่องเดียวกันในขณะที่พานาโซนิค ก็เปลี่ยนน้ำยาแอร์จากR 22 มาใช้ น้ำยาแอร์ R410a ในรุ่นอินเวอร์เตอร์แล้วเช่นกัน และเครื่องปรับอากาศยี่ห้ออื่นก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้น้ำยาแอร์ R410a บ้างเป็นบางรุ่นที่เป็นรุ่นอินเวอร์เตอร์เช่นกัน
การเปลี่ยนมาใช้น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น R410a นั้น ต้องเปลี่ยนกันหลายอย่างหรือเรียกได้ว่าเปลี่ยนกันยกชุด ตั้งแต่คอมเพรสเซอรแอร์ที่ต้องใช้สำหรับน้ำยาตัวนี้โดยเฉพาะ เครื่องมือในการแว็คน้ำยาเกจ์น้ำยาแอร์เบอร์ R410a ก็ต้องมีการเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เพราะน้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น R410a มีแรงดันมากกว่าน้ำยาแอร์ R-22 วาล์วน้ำยาจึงมีขนาดใหญ่ว่าและแน่นอนครับว่าไม่สามารถใช้เกจ์น้ำยา R-22 วัดแรงดัน หรือเติมน้ำแอร์ R410a ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการเกิดสภาวะโลกร้อนให้มากที่สุด เราก็ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น R410a เพื่อโลกของเราจะได้น่าอยู่ขึ้น
★ การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศสารทำความเย็น R410A กับ R22
การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศน้ำยา R410A กับ R22 การดูแลเครื่องปรับอากาศโดยผู้ใช้มีวิธีการขั้นตอน รวมถึงเครื่องมือที่ ไม่แตกต่างกันเช่น การถอดแผ่นฟิลเตอร์ออกมาล้าง หรือการเช็ด Line flow fan การล้างแอร์มีวิธีการ ขั้นตอนรวมถึงเครื่องมือที่ไม่แตกต่างกัน การเติมน้ำยาแอร์ (กรณีที่เกิดการรั่ว) ควรรู้และใช้น้ำยาทำความเย็นที่ถูกต้องตรงตามประเภทของเครื่องปรับอากาศ อัตราค่าล้างแอร์ไม่แตกต่างกันระหว่างน้ำยา R410A กับ R22
แนวโน้มในอนาคต น้ำยา R410A มีแนวโน้มราคาต่ำลง และแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น้ำยา R22 มีแนวโน้มน้อยลงเนื่องจากเป็นไปตามข้อกำหนดในการลดการนำเข้าน้ำยา R22 (HFCF) ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและพิธีสารมอลทรีออล
ข้อมูลจาก : กรมโรงงานอุตสาหกรรม, aeonworld,bkairsupply